แบรนด์ Top 5 กับไอเดียออกแบบแพคเกจจิ้งเครื่องสำอาง ให้ปัง น่าซื้อ

ธุรกิจแพกเกจจิ้ง
14 March 2022
แบ่งปันข้อความนี้
facebook
copylink
แบรนด์ Top 5 กับไอเดียออกแบบแพคเกจจิ้งเครื่องสำอาง ให้ปัง น่าซื้อ


กล่องบรรจุภัณฑ์เป็นสิ่งแรกที่ลูกค้าจะได้เห็นก่อนจะมีโอกาสได้ลอง ดมกลิ่น หรือสัมผัสผลิตภัณฑ์ด้วยซ้ำ เจ้าของแบรนด์จึงต้องใส่ใจในทุกขั้นตอน เพื่อให้กล่องบรรจุภัณฑ์ออกมาดูดีและมีความน่าสนใจ การออกแบบกล่องสวยๆ ที่ตอบโจทย์และตรงกับความต้องการของลูกค้าทั้งในเรื่องความประทับใจ การแข็งแรงของกล่อง รวมถึงการจัดส่งไปรษณีย์หรือการจัดส่งของออนไลน์จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ในวันนี้ LocoPack ได้รวบรวม 5 ตัวอย่างเพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบกล่องบรรจุภัณฑ์สำหรับเครื่องสำอางให้เป๊ะปัง โดดเด่น น่าซื้อมาฝากกัน

1. SOFI Cosmetics


แบรนด์เครื่องสำอาง SOFI เป็นธุรกิจครอบครัวที่ตั้งอยู่ในเซอร์เบีย เจ้าของแบรนด์มีความเชี่ยวชาญด้านสินค้า Handmade ที่ทำมาจากธรรมชาติอย่างสบู่ธรรมชาติ บาธบอมบ์ ลิปบาล์ม เกลืออาบน้ำกลิ่นหอม ครีมทาหน้าและมือ และน้ำมันสำหรับผิวกาย วัสดุที่ใช้รวมถึงแพคเกจจิ้งจะถูกเลือก และมีการออกแบบแพคเกจจิ้งให้เรียบง่าย มีความมินิมอล แต่เก๋กรุบ มีการใช้ลายเส้น ภาพวาดที่สื่อถึงพืชพรรณ ธรรมชาติอย่างชัดเจน 


2. Taller de Hierbas 


เจ้าของแบรนด์จะใส่ใจดูแลสินค้าตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตไปจนถึงการออกแบบแพคเกจจิ้ง กล่องบรรจุภัณฑ์ เป็นแบรนด์ที่เป็นสินค้าดูแลผิว และสินค้าเพื่อสุขภาพจากสมุนไพร ส่วนผสมจากธรรมชาติต่างๆ ใน El Retiro เมืองเล็กๆ ทางตะวันตกของโคลัมเบีย การออกแบบกล่องบรรจุภัณฑ์จึงธรรมชาติเป็นเหมือนจานสีเพื่อสื่อถึงสินค้าจากธรรมชาติ มีสีที่เรียบง่าย โลโก้มีการนำภาพสมุนไพรมาใช้สื่อถึงการดูแลตัวเองในการรักษาสุขภาพร่างกายและจิตใจด้วย


3. 1FLR

แพคเกจจิ้งสายมินิมอลต้องชอบสิ่งนี้!! หลายคนคงเคยได้ยิน น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ คำๆ นี้มักถูกนำมาเป็นไอเดียการออกแบบแพคเกจจิ้งที่โฉบเฉี่ยวที่พบเจอในทุกยุค 1FLR เป็นแบรนด์สินค้าและแพคเกจจิ้งดูแลผิวระดับพรีเมียมของเกาหลีที่ถูกออกแบบโดย A&M Creative ในกรุงปารีส สินค้าอยู่ในกลุ่มคลีนเซอร์ โทนเนอร์ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เจ้าของแบรนด์และนักออกแบบเลือกออกแบบสินค้าและออกแบบกล่องสวยๆ ให้มีความมินิมอล เรียบง่าย สะอาดตาด้วยการเลือกใช้สีขาว สีดำและสีเทาและยังช่วยสื่อถึงสินค้าที่หรูหรา ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน


4. Waterbody

 

เป็นสินค้าดูแลผิวที่เจ้าของแบรนด์ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปทรงภูมิทัศน์และรอยต่อของน้ำ การออกแบบบรรจุภัณฑ์จึงมีการผสมผสานจากธรรมชาติ เจ้าของแบรนด์และนักออกแบบต้องการสร้างแบรนด์ให้ดูผ่อนคลาย เป็นธรรมชาติแต่มีความโฉบเฉี่ยวด้วย shape ของโลก ทะเลและท้องฟ้า โลโก้และข้อความเลือกใช้เทคนิคการพิมพ์ฟอยล์ทองแดงบนหน้าสินค้าและกล่องบรรจุภัณฑ์ มีการเลือกใช้กระดาษแข็งที่เป็นลักษณะเฉพาะของตัวแบรนด์ เพื่อให้สื่อถึงความใส่ใจ


5. Conserva Collective 

แบรนด์ Conserva Collective เป็นแบรนด์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่เจ้าของแบรนด์และนักออกแบบตั้งใจออกแบบแพคเกจจิ้งให้เป็นเหมือนกับเครื่องประดับในห้องน้ำของคุณ และตั้งใจพัฒนาสบู่และแชมพู ให้เข้าร่วมกับโครงการอนุรักษ์ทางทะเลอ่าวแคลิฟอร์เนียที่ทำอยู่ โดยส่วนผสมที่ใช้เป็นสารขัดผิวอย่างสาหร่ายที่ถูกซัดขึ้นมาเกยฝั่ง และจะถูกเก็บโดยอาสาสมัคร สินค้าของเขาถูกออกแบบให้มาอยู่ในแพคเกจจิ้งที่เป็นขวดแก้วสวยงาม หรือห่อด้วยกระดาษเพื่อสื่อถึงความเป็น Original และตัวฉลากเองมีพื้นผิวละเอียดเหมือนตาข่าย ซึ่งทำมาจากข้าวโพด


อยากออกแบบบรรจุภัณฑ์ กล่องกระดาษเพิ่มมูลค่าให้สินค้าและธุรกิจของคุณ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นจากที่ตรงไหน…? ที่ LocoPack เรามีแบบกล่องบรรจุภัณฑ์ให้เลือกที่หลากหลาย แข็งแรง ทนทาน รับน้ำหนักได้ดี มีขนาดที่เหมาะสม ตั้งแต่กล่องกระดาษ กล่องลัง ขวด และสติกเกอร์ ฯลฯ พร้อมบริการ One Stop Service ที่สั่งทำ รับผลิต ออกแบบกล่องกระดาษสวยๆ เปรียบเทียบราคากล่องกระดาษได้ เลือกโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพเองได้ตลอด 24 ชม. พร้อมบริการออกแบบแพคเกจจิ้ง ราคาถูกเองได้บนหน้าเว็บ ที่สะดวกสบายและตรงใจพ่อค้า-แม่ค้ามากที่สุด สินค้าคุณภาพไม่ตรงตาม spec ยินดีคืนเงินภายใน 7 วัน เพื่อให้คุณได้รับแพคเกจจิ้งที่ดีที่สุด สนใจออกแบบแพคเกจจิ้งในแบบของตัวเองได้ที่ https://www.locopack.co/th/


---------------------------------------------------------------


ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก https://sufio.com/blog/cosmetic-packaging-creative-ideas/


สนใจแพคเกจกจิ้งแบบนี้บ้าง

เริ่มเลย
แบ่งปันข้อความนี้
facebook
copylink

อ่านต่อ

บทความที่เกี่ยวข้อง
3 คำถามต้องตอบได้ ก่อนเริ่มดีไซน์แพคเกจจิ้ง!
แพกเกจจิ้งออกแบบ 12 May 2020
คือเรื่องง่ายที่ใครก็รู้ แต่คำถามที่ว่า “จะออกแบบแพคเกจจิ้งแบบไหนให้ออกมาดี?” นี่สิ คือเรื่องยาก ที่คุณต้องหาคำตอบ ดังนั้นสำหรับเจ้าของแบรนด์ที่อยากดีไซน์แพคเกจจิ้งดีๆเพื่อสินค้าคุณ แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร คุณมาถูกทางแล้วครับ สำหรับปัญหาข้อนี้ LocoPack มีทางออกให้กับคุณ เพียงลองตอบคำถาม 3 ข้อต่อไปนี้ให้ได้ เพราะถ้าตอบได้แล้วก็จะสามารถทราบได้ในทันที ว่าแนวทางเพื่อการออกแบบแพคเกจจิ้งสำหรับสินค้าของคุณควรเป็นอย่างไร 1. สินค้าของคุณคืออะไร?ก่อนอื่นเพื่อกำหนดลักษณะโดยรวมของแพคเกจจิ้ง ลองพิจารณากันก่อนครับ ว่าสินค้าของคุณเป็นสินค้าประเภทไหน ทำจากอะไร ขนาดเท่าไร ความคงทนเป็นอย่างไร เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลต่อการออกแบบแพคเกจจิ้งทั้งสิ้น ในขณะที่สินค้าเปราะบางแตกง่าย ต้องการบรรจุภัณฑ์มั่นคงแข็งแรง รองรับการกระแทกขณะขนส่ง สินค้ารูปทรงแปลกตา อาจต้องการบรรจุภัณฑ์ออกแบบพิเศษที่พิถีพิถันมากกว่าการเลือกใช้กล่องรูปทรงธรรมดา 2. ใครคือผู้ซื้อสินค้า?ผู้ชาย ผู้หญิง เด็กเล็ก หรือผู้ใหญ่ ใครคือกลุ่มเป้าหมายของสินค้าคุณ? เพราะกลุ่มคนแต่ละกลุ่ม ย่อมถูกดึงดูดด้วยรูปลักษณ์ของแพคเกจจิ้งที่แตกต่างกัน ในขณะที่แพคเกจจิ้งสำหรับกลุ่มลูกค้าผู้ใหญ่หรือสูงวัย ควรเป็นการดีไซน์แบบง่าย และมีตัวอักษรขนาดใหญ่เพื่อให้เห็นข้อความได้ชัดเจน การออกแบบแพคเกจจิ้งที่ดูเปรี้ยวเท่หรูหราก็สามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้ามีฐานะที่ชอบความโก้หรูดูดี ดังนั้นการทราบก่อนว่าผู้ซื้อสินค้า คือกลุ่มบุคคลประเภทไหน เราก็จะสามารถกำหนดทิศทางการออกแบบบรรจุภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น3. สินค้าจะถูกจำหน่ายอย่างไร ?ลองพิจารณาสักนิด สินค้าของคุณนั้นถูกจำหน่าย ซื้อขายในช่องทางไหน เป็นการตั้งสินค้าหน้าร้าน ซื้อมาจำหน่ายไปแบบปกติ หรือผ่านการสั่งซื้อออนไลน์? เมื่อสถานที่ขายสินค้าต่าง กลยุทธ์การออกแบบผลิตภัณฑ์ก็ต่างกัน หากเป็นการวางสินค้าบนชั้นวาง มีคู่แข่งเป็นสินค้าประเภทเดียวกัน สินค้าของคุณต้องการบรรจุภัณฑ์ที่โดดเด่นและแตกต่าง เพื่อดึงดูดสายตา แต่ถ้าสินค้าของคุณเน้นช่องทางการขายบนโลกออนไลน์ คุณก็ต้องมองหาการออกแบบแพคเกจจิ้งที่ให้ความสะดวก และเหมาะสมกับการขนส่งทางไกลมากกว่าภาพลักษณ์แพคเกจจิ้งที่ต้องโดดเด่นกว่าใครCredit: 99designs
“ข้อมูลที่ต้องพร้อม” ก่อนเริ่มออกแบบแพคเกจจิ้ง!
แพกเกจจิ้งออกแบบ 12 May 2020
ต่อจากคราวก่อน ที่เราได้ให้แนวทางการออกแบบแพคเกจจิ้ง ผ่าน 3 คำถามสำคัญ ที่ต้องตอบได้ก่อนเริ่มออกแบบบรรจุภัณฑ์กันไปแล้ว สำหรับบทความในวันนี้ เพื่อเป็นไกด์ไลน์ให้กับเจ้าของแบรนด์ที่อยากออกแบบแพคเกจจิ้งดีๆ ที่จะช่วยเพิ่มยอดไลค์ อัพยอดขายสินค้าและบริการของคุณให้ได้ LocoPack ขอกระเถิบลงรายละเอียดเพิ่มเติมกันอีกสักหน่อยนะครับ โดยขอพูดต่อกันถึง “ข้อมูลที่คุณต้องมีพร้อม” เพื่อการสร้าง และผลิตแพคเกจจิ้งดีๆ พร้อมใช้งานที่จะออกมาตรงใจผู้ขาย และถูกใจผู้ซื้อได้อย่างแน่นอน 1. ข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์เพราะสินค้าและแพคเกจจิ้ง คือสื่อสำคัญเพื่อการโปรโมทแบรนด์ของคุณสู่สายตาของลูกค้าและผู้พบเห็น ดังนั้นการออกแบบแพคเกจจิ้งจึงต้องใส่ใจในรายละเอียดอัตลักษณ์ของแบรนด์ โดยก่อนการเริ่มออกแบบ คุณควรมีข้อมูลเกี่ยวกับอัตลักษณ์ของแบรนด์ดังต่อไปนี้ครบถ้วนกันเสียก่อน สีหลัก เฉดสีที่เลือกใช้: ชื่อสี โค้ดสี ฟ้อนต์ตัวอักษร: ให้ระบุการใช้ให้ชัดเจน อาทิ ตัวหนาสำหรับหัวข้อ ตัวเล็กบางสำหรับข้อมูลทั่วไป โลโก้ของแบรนด์: จัดเตรียมประเภทไฟล์ที่เหมาะสม เพื่อการจัดพิมพ์ 2. ข้อมูลที่ต้องมีบนแพคเกจจิ้ง แต่ละประเภทสินค้า แต่ละแบรนด์ ย่อมมีข้อมูลเพื่อการปริ้นท์บนแพคเกจจิ้งแตกต่างกันไป ดังนั้นเพื่อสร้างแพคเกจจิ้งตรงใจ สามารถใช้งานได้จริง การมีข้อมูลในส่วนนี้ไว้ครบถ้วนก่อนจึงสำคัญมากนะครับ ทั้งนี้ข้อมูลที่ต้องมีเพื่อระบุบนแพคเกจจิ้ง ก็ได้แก่ ข้อความ: เช่น ชื่อสินค้า คำขวัญ คำอธิบายสั้นๆเกี่ยวกับสินค้า รูปภาพ: ไม่ว่าจะภาพพรีเซนเตอร์ ภาพส่วนประกอบ หรือภาพสินค้า ขอให้จัดเตรียมไว้ให้พร้อมก่อนเริ่มต้นการออกแบบ เครื่องหมายที่จำเป็น: อาทิ บาร์โค้ด เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายรับรองจากภาครัฐ ข้อมูลอื่นๆ: อาทิ ข้อมูลตามกฎหมาย ที่อาจต้องเปลี่ยนแปลงภายหลัง หรือยังเป็นข้อมูลที่ไม่แน่นอน (ซึ่งคุณไม่อาจจำเป็นต้องปริ้นท์ลงบนแพคเกจจิ้งโดยตรง แต่อย่าลืมเหลือเนื้อที่ สำหรับการเพิ่มเติมเนื้อหาในส่วนนี้ เช่นพื้นที่เพื่อแปะสติ๊กเกอร์ หรือปริ๊นท์ลงในภายหลังด้วยนะครับ) 3. แบบที่ชอบ สไตล์ที่ใช่ ขอให้รวบรวมแพคเกจจิ้งที่ชอบ เห็นทีไรถูกใจทุกทีไว้เลยนะครับ เลือกเก็บไว้หลายๆแบบ อาจใช้วิธีการถ่ายภาพ ครอปภาพมาไว้ก็ได้ นอกจากนี้ลองนึกถึงวัสดุสำหรับทำแพคเกจจิ้งของคุณด้วย เพราะข้อมูลของแบบแพคเกจจิ้งที่ชอบ จะสามารถนำมาประยุกต์รวมกัน หรือให้ไอเดียแก่ผู้ออกแบบ เพื่อสร้างเป็นแพคเกจจิ้งในฝันให้กับแบรนด์ของคุณได้นั่นเอง 4. งบประมาณ งบประมาณการผลิต และต้นทุนของแพคเกจจิ้ง คืออีกข้อสำคัญที่ต้องคำนึงถึงก่อนเริ่มลงมือออกแบบ ทั้งนี้ต้นทุน หรือเรื่องเงินๆทองๆของการผลิตแพคเกจจิ้งที่ว่า จะแบ่งออกได้เป็น 2 กรณี คือ ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นเพื่อการออกแบบ ครอบคลุมถึง ค่าจ้างออกแบบ ค่าแม่พิมพ์ ซึ่งค่าใช้จ่ายในหมวดนี้ มักจ่ายกันเพียงครั้งเดียวเพื่อการใช้ที่ยาวนาน ต้นทุนต่อชิ้น ซึ่งรวมถึงค่าวัสดุและค่าแรงงานที่ใช้ต่อแพคเกจจิ้งหนึ่งชิ้น นอกจากนี้ อย่าลืมว่า งบประมาณที่ถูกกว่าใช่ว่าดีกว่าเสมอไป เพราะการใช้วัสดุคุณภาพดี การออกแบบมีคุณภาพ จะสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้าให้ดูโดดเด่นกว่าแบรนด์คู่แข่งอย่างไรก็ตาม การออกแบบแพคเกจจิ้งที่ดี ให้มีภาพลักษณ์เตะตา น่าดึงดูด ที่คำนึงถึงความเหมาะสม และถูกใจทั้งฝ่ายผู้ซื้อและผู้ขายก็สามารถทำได้ในราคาประหยัด และต้นทุนที่ถูกกว่า สิ่งสำคัญอยู่ที่ความคิด ไอเดียและความเชี่ยวชาญในการออกแบบแพคเกจจิ้งนั่นเอง Credit: 99designs
10 ขั้นตอนง่าย สู่การเป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอาง
ธุรกิจ 12 May 2020
เชื่อว่าหลายๆคนที่มีความใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าของกิจการให้ได้สักครั้งในชีวิต อยากจะสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง... เพื่อขายสินค้าที่ตนชื่นชอบและสนใจ ยังวนเวียนอยู่กับความคิดที่ว่า “เป็นเจ้าแบรนด์เองนั้นทำยาก” “ไม่ทราบขั้นตอน” หรือ “ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี” จนไม่ได้เริ่มต้นจริงๆจังๆกันเสียที เพื่อช่วยให้คุณได้ “เริ่มต้น” กันได้และไขข้อข้องใจเพื่อก้าวสู่การเป็นเจ้าของแบรนด์ สินค้าในหมวดหมู่เครื่องสำอาง LocoPack เราได้ทำการสืบค้นและรวบรวมมาให้คุณกันแล้วครับ กับบทสรุป 10 ขั้นตอนง่าย สู่การเป็นเจ้าแบรนด์เครื่องสำอาง 1. วางแผนภาพรวมวางแผนกว้างๆกันก่อนครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกผิด เพราะสเต็ปแรกสุดนี้เป็นเพียงการวางแผนในภาพรวมที่สามารถปรับเปลี่ยนกันได้ในลำดับต่อไป ซึ่งในขั้นตอนนี้ขอให้คุณได้ลองคิด หรือจดโน๊ตย่อสั้นๆออกมากันก่อนว่าต้องการขายสินค้าชนิดไหน มีความโดดเด่นในด้านใด ต้องการขายสินค้าแก่ลูกค้ากลุ่มใด โดยอาจอิงเอาจากสินค้าที่ตนเองสนใจ ชื่นชอบ หรือมองว่ามีโอกาสเติบโต นอกจากนี้อย่าลืมวางแผนเรื่องต้นทุนไว้คร่าวๆ เพราะขั้นตอนต่อๆไป จะต้องนำเรื่องต้นทุนที่วางแผนไว้มาประกอบการพิจารณา 2. ศึกษาโอกาสความเป็นไปได้ด้วยตนเอง เพื่อลดความเสี่ยงเรื่องเวลา เงินที่อาจเสียไปถ้าสินค้าที่คิดไว้ไม่เวิร์ค ไม่เป็นที่ต้องการ คุณก็ควรที่จะทำการศึกษาโอกาสความเป็นไปได้ดูกันก่อน ก่อนที่จะลุยต่อในสเต็ปต่อไป ซึ่งขั้นตอนนี้ก็ง่ายๆครับ ลองเข้าไปสัมผัสกับกลุ่มสินค้า และตลาดลูกค้าของโปรดักส์ที่คุณประสงค์จะขาย เช่น ต้องการขายลิปสติกให้กับกลุ่มนักศึกษา หรือสาวๆวัยทำงาน ก็ลองส่องดูกันหน่อยไม๊ แต่ล่ะแบรนด์ที่จัดจำหน่ายลิปสติกเขากำหนดราคาไว้อย่างไร มีข้อดีข้อเสีย หรือใช้ช่องทางใดเป็นช่องทางในการจัดจำหน่าย หรือหากอยากขายครีม ผลิตภัณฑ์สกินแคร์เพื่อการบำรุงผิว การศึกษาตลาด ดู “เทรนด์” กันก่อน ช่วงนี้วัตถุดิบ หรือสารประกอบตัวใดที่กำลังเป็นที่นิยม3. รีเสริชข้อมูล หาผู้ผลิต ถือเป็นโอกาสที่ดีของผู้อยากสร้างแบรนด์ของตนเอง เพราะในปัจจุบันที่โรงงาน ผู้ผลิตเครื่องสำอาง และสกินแคร์มากมายหลายแห่ง แต่ละแห่งมีบริการที่แตกต่างกันไป บ้างรับผลิต คิดค้นสูตร บ้างมีแพคเกจเพื่อการผลิต ออกแบบผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงทำมาร์เกตติ้งให้เสร็จสรรพ อย่างไรก็ตามก่อนจะเลือกโรงงานใดโรงงานหนึ่งเพื่อผลิตสินค้าให้กับคุณ LocoPack ก็ต้องแนะนำกันก่อนว่า ให้คุณศึกษาข้อมูล ตรวจดูรีวิว ความคิดเห็นของลูกค้าเก่าๆ ของแต่ละโรงงานกันก่อนให้ครบถ้วน เพื่อมองหาผู้ให้บริการที่เหมาะสมตรงใจ4. เลือกโรงงานที่วางใจ นอกจากพิจารณาจากประสบการณ์ รีวิว ความคิดเห็นของลูกค้าเก่าๆของแต่ละโรงงานแล้วนั้น ในการตัดสินใจเลือกผู้ผลิต คุณต้องไม่ลืมที่จะคำนึงถึง ราคา ความปลอดภัย และมาตรฐาน โดยควรที่จะเลือกเฉพาะโรงงานที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตการจัดตั้ง ผ่านมาตรฐาน ISO เพื่อมั่นใจได้ว่าผู้ผลิตที่คุณเลือกใช้บริการ นั้นสามารถไว้ใจ และผลิตสินค้าคุณภาพให้คุณได้ได้ นอกจากนี้คุณอาจติดต่อกับโรงงานผู้ผลิตเพื่อสอบถามข้อมูล และราคา โดยคำถามที่คุณควรสอบถามก็ได้แก่ ขอบเขตการให้บริการ ขั้นตอนของออร์เดอร์การผลิต ราคาต่อหน่วย ความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ รวมถึงการให้บริการเสริมอื่นๆ เช่น การขึ้นทะเบียนอ.ย. ไปจนถึงวิธีการจัดส่งสินค้า 5. เลือก “สูตร” ผลิตภัณฑ์ มาถึงขั้นตอนสำคัญ เพื่อสร้างโปรดักส์ปัง เมื่อทำการเลือก “โรงงาน” กันได้แล้ว คุณก็ต้องทำการติดต่อ หรือเดินทางไปยังโรงงานเพื่อเลือก “สูตร” ที่เหมาะสม โดยโรงงานผู้ผลิตส่วนใหญ่มักมีสูตรมาตรฐานไว้อยู่แล้ว สำหรับเครื่องสำอางและสกินแคร์ประเภทต่างๆ ซึ่งหากสูตรเหล่านั้นตรงใจ ก็สามารถสั่งผลิตได้เลยทันที แต่หากคุณต้องการสูตรของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง หรือโดดเด่นกว่าสูตรมาตรฐานที่มีอยู่ ก็สามารถคุยกับผู้ผลิต เพื่อพัฒนาสูตรกันได้นะครับ6. เทสต์ๆ ก่อนตัดสินใจ แม้ผู้ผลิตและโรงงานส่วนใหญ่มักมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาสูตรอยู่แล้ว แต่เพื่อให้สินค้าของคุณเป็นไปตามเป้าหมาย และความต้องการที่วางไว้ ก่อนการตัดสินใจเลือกสูตร ต้องมีการทดสอบ เทสต์ตัวผลิตภัณฑ์ก่อนเสมอ 7. วางแผนมาร์เก็ตติ้งเมื่อได้สูตรโดนใจ ก็ได้เวลาสำหรับขั้นตอนสำคัญต่อมา นั่นก็คือเรื่องของการวางแผนมาร์เก็ตติ้ง! ซึ่งควรจัดการให้เสร็จกันแต่เนิ่นๆ เพราะการตั้งชื่อแบรนด์ โลโก้ บรรจุภัณฑ์ รวมไปถึงจำนวนของสินค้าที่จะสั่งผลิตในแต่ละล็อต ก็ล้วนขึ้นอยู่กับการวางแผนมาร์เก็ตติ้งทั้งสิ้น8. คิดชื่อ ตั้งโลโก้ ออกแบบบรรจุภัณฑ์ ออกแบบโลโก้ และบรรจุภัณฑ์ ควรอิงกับผลิตภัณฑ์และแผนมาร์เก็ตติ้งที่วางไว้ โดยให้เน้นพิจารณาถึงกลุ่มลูกค้า เอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างชื่อแบรนด์ ออกแบบโลโก้และบรรจุภัณฑ์ให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย ทั้งนี้หากใครไม่มีประสบการณ์ สเต็ปนี้ LocoPack ขอแนะนำว่าคุณสามารถหาที่ปรึกษาด้านการตลาด นักออกแบบผลิตภัณฑ์กันได้นะครับเพราะผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ จะเข้าใจภาพรวมในการทำการตลาด เล็งเห็นถึงทิศทางการทำยอดขาย สร้างความโดดเด่นให้กับโปรดักส์และพร้อมจะให้คำแนะนำ ในประเด็นที่คุณเองอาจนึกไม่ถึงก็เป็นได้ 9. สั่งผลิตสินค้า และบรรจุภัณฑ์เมื่อสูตรพร้อม ดีไซน์พร้อม ก็ได้เวลาทำฝันให้เป็นจริง ทั้งนี้โรงงานหลายแห่งพร้อมบริการการผลิตแบบครบวงจร คือบริการทั้งผลิตสินค้าและผลิตแพคเกจจิ้งให้เสร็จสรรพ แต่หากว่าดีไซน์แพคเกจจิ้งของโรงงานไม่โดนใจ หรือคุณมองหาไอเดียแปลกใหม่เพื่อสร้างความโดดเด่น การเลือกใช้บริการจากผู้ออกแบบและผลิตแพคเกจจิ้งจากแหล่งอื่นๆ ก็นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการสร้างแบรนด์ให้โดดเด่น และแตกต่าง10. เน้นพัฒนาแบรนด์ อัพยอดขายอยู่เสมอเพราะโลกของการตลาดไม่เคยหยุดอยู่กับที่ เมื่อสินค้าพร้อม แผนการตลาดพร้อม คุณเองก็หยุดไม่ได้เช่นเดียวกัน การพัฒนาแบรนด์ หาช่องทางการทำการตลาด เพิ่มกลุ่มลูกค้า คือหน้าที่สำคัญที่ CEO หน้าใหม่จะลืมไปไม่ได้ ดังนั้นจงศึกษาเทรนด์ใหม่ๆอยู่เสมอ พัฒนาสูตร พัฒนาสินค้า ไปจนถึงหมั่นติดตามช่องทางการทำการตลาด ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ หรือแม้แต่การปรับเปลี่ยนโลโก้หรือบรรจุภัณฑ์ให้ต้องตาโดนใจของลูกค้าแต่ละช่วงสมัย ให้สินค้าของแบรนด์คุณดูดี เป็นที่ต้องการของตลาดอยู่เสมอCredit: Ladyissue.com